วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2559

Markrting Communication






ช่องทางการสื่อสาร










การโฆษณา

Advertising


ข้อดี : เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง สร้างการรับรู้ ให้ข้อมูลข่าวสาร การตอกย้ำแบรนด์(ความถี่) กระตุ้นให้เกิดการซื้อได้

ข้อเสีย : ค่าใช้จ่ายสูง เป็นการสื่อสารทางเดียว ความน่าเชื่อถือน้อย

**ซึ่งข้อจำกัดแต่ละสื่อในเครื่องมือนี้ก็ต่างกันอีกเช่นกัน เช่น ทีวี ภาพสวย กว้างขวาง แต่.. ค่าใช้จ่ายสูง**

ตัวอย่างเช่น โฆษณาทั่วไปตามโทรทัศน์ หรือสื่ออื่นๆ โดยจะมีการบอกข่าวสาร คุณประโยชน์ของสินค้าที่ผู้บริโภคจะได้รับ เป็นต้น







การส่งเสริมการขาย 

Sales Promotion


ข้อดี : จูงใจโดยให้เงื่อนไขพิเศษกระตุ้นให้เกิดการซื้อในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งสามารถเพิ่มยอดขายได้ ดึงผู้บริโภคใหม่ๆให้มีโอกาสเข้ามาทดลองใช้สินค้า การเสริมแรงโฆษณาในตราสินค้า

ข้อเสีย : มีการกำหนดระยะเวลา(ทำยอดขายในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง) หากมีการทำบ่อยๆอาจทำให้คุณค่าของแบรนด์ลดลง

ตัวอย่างเช่น แมคโดนัลด์ จะเห็นได้ว่ามีเงื่อนไขคือการกำหนดระยะเวลา เสนอโปรโมชั่นพิเศษให้ลูกค้า โดยจะกระตุ้นการซื้อในช่วงใดช่วงหนึ่งเท่านั้น 








การประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่ข่าว 

Public Relations and Publicity


ข้อดี : มีความน่าเชื่อถือ ค่าใช้จ่ายต่ำ นำไปสู่การหาลูกค้าใหม่ๆได้ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์/องค์กร เป็นการสื่อสารแบบสองทาง สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างองค์กรและอื่นๆ กลยุทธ์ในระยะยาว

ข้อเสีย : กว่าจะเห็นผลอาจต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง อำนาจในการสร้างยอดขายต่ำ


ตัวอย่างเช่น การจัดอีเวนท์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มีการเชิญเซเลปมาร่วมงาน สื่อมวลชนย่อมให้ความสนใจเอาไปลงข่าว โดยที่เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย แถมยังมีโอกาสที่คนที่ผ่านไปมาบริเวณที่เราจัดงานนั้นจะพบเห็นอีเวนท์ของเรา อาจสร้างความสนใจให้กับลูกค้าหน้าใหม่ให้ได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสบรรยากาส ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความรู้สึกที่ดีกับแบรนด์ได้







การขายโดยบุคคล 

Personal Selling


ข้อดี : มีการปฏิสัมพันธ์ซึ่งหน้า สามารถให้ข้อมูล/แลกเปลี่ยนข้อมูลได้ เห็นฟีดแบคชัดเจน  สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคในจุดขาย เสนอสิ่งต่างๆได้ง่าย มีแนวโน้มที่จะโน้มน้าวใจได้สูง ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ สามารถนำเสนอสิ่งๆใหม่ได้ นำไปสู่การขายแบบเนียนๆ เสนอขายและสาธิตสินค้าได้ง่าย จัดการกับข้อโต้แย้งได้ ติดตามผลและดูแลลูกค้าในๆจุด

ข้อเสีย : หากรุกมากเกินไปก็อาจเป็นผลเสียได้เช่นกัน 


ตัวอย่างเช่น เคาท์เตอร์แบรนด์เครื่องสำอางต่างๆ สังเกตได้จากที่เราเดินเข้าไปสอบถาม พนักงานหน้าเคาท์เตอร์จะมีการเสนอสินค้าชนิดอื่นๆที่เราไม่ได้ต้องการ มีการแนะนำให้ข้อมูลต่างๆ ลูกค้าสามารถสอบถาม/ตอบโต้กันได้ ณ เวลานั้น ง่ายต่อการให้ข้อมูล เป็นต้น






การตลาดเจาะตรง

Direct Marketing


ข้อดี : มีฐานข้อมูลของลูกค้า สามารถเข้าหาได้ง่ายทำที่ไหนก็ได้ วัดผลได้จากการตอบกลับของลูกค้า การตลาดแบบ one-to-one ไม่ผ่านบุคคลอื่น 

ข้อเสีย : หากรบกวนมากเกินไป อาจส่งผลลบกับแบรนด์ได้เช่นกัน 


ตัวอย่างเช่น เวลาเราสมัครบัตรสมาชิก จะต้องกรอกอีเมลรวมไปถึงรายละเอียดอื่นๆ แบรนด์เหล่านี้จะอาศัยโอกาส/ช่องทาง ทางการตลาดที่จะเข้าถึงผู้บริโภคได้ในทุกๆเวลา ด้วยการสื่อสารโดยตรงอาจง่ายต่อการเข้าหาและกระตุ้นการซื้อได้อีกด้วย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น